OSAKA UNIVERSITY (大阪大学)
1. มหาวิทยาลัยที่ไปแลกเปลี่ยน
มหาวิทยาลัยโอซาก้า จ.โอซาก้า
2.
ชื่อ-นามสกุลผู้ไปแลกเปลี่ยน
ภัทรสร (ยิ้ม)
ภริดา (มิ้นท์)
3.
รหัสนิสิต
56
4.
เทอม (ฤดู)ที่ไปแลกเปลี่ยน
ฤดูใบไม้ร่วง
5.
ช่วงระยะเวลาที่ไปแลกเปลี่ยน
ระยะยาว ปี 2015-2016
6.
โครงการแลกเปลี่ยนอยู่ภายใต้องค์กรใด
ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (MEXT)
7.
ได้รับเงินทุนขณะแลกเปลี่ยนหรือไม่ จากองค์กรอะไร
MEXT
8.
ได้รับเงินทุนเท่าไหร่ต่อเดือน
120,000
เยน
9.
อะไรในมหาวิทยาลัยของท่านที่โดดเด่นหรือประทับใจที่สุด
(เช่น ภูเขาสวย ราเมงอร่อย มหาวิทยาลัยไฮโซ)
ภัทรสร : ความพร้อมในการรองรับนักเรียนต่างชาติ และความบ้านนอก
ภริดา : 留学生センターที่โปรกับการรับมือเด็กต่างชาติมาก เอกสารต่างๆที่ต้องทำที่เขตหรือธนาคารจะมีจนท.พาไป
หรือรวบรวมใบมาให้ทำที่ม.เลย เรื่องกลับประเทศก่อนกำหนดเขาก็เป็นธุระให้หมดเราแค่แจ้งก็พอ
10.
กรุณาอธิบายหลักสูตรและตัวอย่างวิชาเรียน
เช่น วิชาบังคับ วิชาเลือก เคงคิวคอร์ส เคนชูคอร์ส
ภัทรสร : ถ้าไปด้วยทุนมงจะเรียกว่า J
Program แบ่งเป็น 研究コース กับ 研修コース ต่างกันที่เคงคิวคอร์สต้องทำวิจัย ส่วนเคนชูคอร์สไม่ต้อง
แต่ต้องเขียนเรียงความสั้น ๆ ส่งทุกสัปดาห์ + รายงานส่งท้ายปี เราเรียนเคนคิวคอร์ส
วิชาที่เรียนคือเลือกลงทะเบียนเองได้หมดเลย
จัดตารางเรียนเองได้ แบ่งหมวดเป็นวิชาภาษา(日本語実習 น่าจะชื่อนี้) กับวิชา研究 (คือทุกอย่างที่ไม่ใช่ภาษาโดยตรง
แบบ วรรณคดี ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม) ต้องเลือกเรียนขั้นต่ำหมวดละ 6 ตัว
วิชาต้องรวมได้ประมาณ 21 ตัว(คาบละ 1.30 ชม.)
ต่อทั้งปี + วิชาเคงคิว(คุยกับอ.ที่ปรึกษา) และวิชาเขียนรายงานตอนเทอมสอง
วิชามีหลากหลายล้านแปด ทางภาษาเช่น การฟัง
คันจิ การเขียน ล่าม(ญี่ปุ่นอังกฤษ) ทั่ว ๆ ไป วิชาฝั่งเคงคิวก็เช่น วรรณคดีสมัยใหม่
音声学、言語学、日本史入門、日本伝統芸能入門、 日本の幽霊、くずし字(ตัวอักษรในเอกสารสมัยเอโดะ)
มีพวกแนวคิดหลังขบวนการเซนไต หรือเรียนประวัติศาสตร์จากโปสการ์ด ประวัติภาษาญี่ปุ่นด้วย
แต่เราไม่ได้ลง"
ภริดา : มีเคงคิวคอร์สกับเคนชูคอร์ส เคงคิว เน้นทำรายงาน หรือรงบุน(เลือกได้ ถ้าทำรายงานก็อ.ที่ปรึกษา1คนต่อนร.3คน
จะไม่ซีเรียสเท่ารงบุน ที่ทำกับอ.1ต่อ1)
เจออ.ที่ปรึกษาสัปดาห์ละครั้ง เทอมแรกเน้นอ่านหนังสือ สโคปหัวข้อ ถ้าใครอยากเปลี่ยนหัวข้อก็เปลี่ยนได้ตอนนี้นะ
ตอนจบเทอม1มีให้ตัดสินใจอีกรอบว่าจะเปลี่ยนไปเขียนรงบุน หรือรีพอร์ตมั้ย
(ส่วนเราเลือกทำรีพอร์ตมาตลอด)
เทอม2เริ่มเขียนเป็นเล่ม ของคนทำรีพอร์ตจะมีอาจารย์สอนเขียนอีกคนมาช่วยดูให้
นอกเหนือจากอาจารย์ที่ปรึกษา ระวังความเห็นอาจารย์ตีกันแล้วเราจะสับสนมาก55555 แต่ก็ผ่านมาได้
ส่วนเคนชูคอร์ส เน้นทัศนศึกษาและเขียนบันทึกหลังจบแต่ละครั้งที่ไป
ตอนจบต้องเขียนรายงานเล่มหนึ่งในหัวข้อที่สนใจอะไรก็ได้ เช่น เพื่อนเราเขียนเรื่องหนังสือภาพเด็ก
มีรุ่นพี่เขียนเรื่องเทะมาริ
ด้านวิชาเรียนจะมี2แบบคือกลุ่มวิชาสกิล(ฟังพูดอ่านเขียนญี่ แปลญี่-อิ้ง)กับวิชาเฉพาะด้าน (ภาษา
วัฒนธรรม วรรณกรรม ศิลปะ สังคม) เขาจะกำหนดหน่วยกิตมาให้เราเฉยๆว่าต้องเอาวิชาแบบไหนกี่หน่วยกิตที่เหลือเราก็เลือกเอาตามใจชอบ
เช่น คิดว่าอ่อนคอนเวอร์ก็ไปลงคอนเวอร์เยอะๆได้ หรือไม่ชอบวรรณกรรมก็ไม่ต้องลงมันเลย5555
11.
มหาวิทยาลัยโดดเด่นสายอะไร (วิทย์ ศิลป์
กีฬา ฯลฯ)
ภัทรสร : อันนี้ไม่แน่ใจ... รู้ว่ามีคณะภาษาต่างประเทศ
ซึ่งมีไม่กี่มหาลัย กับมีสาขาพวกโอซาก้าศึกษา
ภริดา : ภาษา?
คิดว่าน่าจะภาษานะ555
12.
การทำวิจัย
ภัทรสร : ไม่บังคับ
ภริดา : บังคับ (ไปแบบซุยเซน / แนะนำผ่านอาจารย์)
13.
มีระบบซัพพอร์ทการทำวิจัยหรือไม่
ภัทรสร : มีติวเตอร์ มีคาบเคงคิวให้นั่งคุยกับอ.ที่ปรึกษาทั้งสองเทอม
เทอมปลาย(ฮารุ)มีคาบเขียนรายงานให้ด้วย
ภริดา : ติวเตอร์ คาบเขียนรายงาน
14.
อาจารย์ที่ปรึกษาที่ได้เชี่ยวชาญสายอะไร
และตรงกับสายเคงคิวตาม Study Plan หรือไม่
ภัทรสร : สายวรรณกรรม ไม่ตรงกับเคงคิว
ภริดา : ภาษาศาสตร์
โดยเฉพาะไวยากรณ์ โครงสร้างประโยค ก็ค่อนข้างตรงกับstudy planที่เราเลือกทำด้านภาษา
15. ชื่อหอพักและราคาหอพักต่อเดือน
ภัทรสร : 留学生会館1号館 (เรียกกันว่า
หอหนึ่ง) , 16000 เยนต่อเดือน รวมค่าน้ำไฟและเน็ต
ภริดา : Rooming
House Kaji จำราคาไม่ค่อยได้น่าจะ28, 000เยนต่อเดือน
16. ภายในหอพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง
ภัทรสร : แอร์, ครัวรวม,
ห้องน้ำรวม, น้ำอุ่น, เครื่องซักผ้าส่วนรวม,
อินเตอร์เน็ต (ไวไฟ), โต๊ะเขียนหนังสือ, ตู้เสื้อผ้า,
ผ้าห่ม, หมอน, ของจากรุ่นพี่, ชั้นวางของ,
ตู้รองเท้า, โคมไฟ,หัวแปลงปลั๊ก
อื่นๆ : แม่บ้านทำความสะอาดส่วนกลางวันจันทร์ พุธ ศุกร์
ภริดา : แอร์,
ฮีตเตอร์, ตู้เย็นในห้อง, ครัวส่วนตัวในห้อง,
ห้องน้ำส่วนตัวในห้อง, น้ำอุ่น, เครื่องซักผ้าส่วนตัวในห้อง,
อินเตอร์เน็ต (ไวไฟ), โต๊ะเขียนหนังสือ, ตู้เสื้อผ้า,
ผ้าห่ม, หมอน, ของจากรุ่นพี่
อื่นๆ : ไวไฟของเราต้องเช่านะ
17.
สภาพแวดล้อมในและรอบๆ มหาวิทยาลัย เช่น
อยู่ในเมือง มีภูเขา มีหมีป่า การเดินทางเข้าเมืองสะดวกไหม ฯลฯ
ภัทรสร : อยู่บนเขา อยู่ในแคมปัสที่มีคณะเดียว โรงอาหารเดียว
นอกมหาลัยเป็นบ้านคนแบบ 住宅 เงียบมาก
คอมบินิใกล้สุดต้องเดินไป 15 นาที(เกือบ 1 กิโล)
มีหมูป่า ทานุกิ ลิง แต่เราไม่เคยเจอ ฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นไปแมลงจะเยอะ มีไส้เดือนและตะขาบ
แหล่งความเจริญที่ที่ใกล้สุดและไปได้ไม่แพงคือ 千里中央 ถ้าจะเข้าเมืองไปอุเมดะหรือนัมบะใช้เวลาประมาณ 1.30
ชม. พอ ๆ กับไปเกียวโตหรือโกเบ
ภริดา : ทุ่งนามากมาย
ม.อยู่บนเนิน มีซุปเปอร์ในละแวกนั้น3ที่ ถ้าเดินห้าง(ที่ไม่ใช่expocity)ต้องนั่งบัสออกไป
ดีตรงที่หอใกล้ม.มากกกเดินได้แม้จะเป็นหอนอกก็ตาม ปีที่เราไปมีexpo
cityแล้วชีวิตก็ดีมาก เป็นห้างใหญ่ช็อปสะใจ นั่งโมโนเรลหลังม.ไปได้เลย
18.
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ มหาวิทยาลัยหรือหอพักมา
1 ที่
ภัทรสร : 万博記念公園
National Museum of Ethnology - 国立民族学博物館(Minpaku) |
ภริดา : Minpaku พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ใกล้กับไทโยโนะโต/expo
city เค้าทำนิทรรศการสวยดีแล้วได้ความรู้ด้วย เดินในนั้นได้ทั้งวันนักศึกษาเข้าฟรี
19.
กิจกรรมประทับใจที่ทางมหาวิทยาลัยหรือของเขตที่อยู่จัดให้
เช่น ทัศนศึกษา Bunkasai
ภัทรสร : มีทัศนศึกษาค้างคืน 3 ครั้ง
(ต้องจ่ายตังค์หลักพัน) กับทัศนศึกษาวันเดียวกลับ 3-4 ครั้ง
ของมหาลัยจัด ทัศนศึกษาค้างคืนดี ได้นอนเรียวกัง มีไปออนเซ็น ปีเราไปฮิเมจิ-นาโอชิมะ
ไปคางาวะ(ไปดูคาบุกิ) แล้วก็ไปเกโระออนเซ็น-อินุยามะ
ภริดา : ฮันไดมีทัศนศึกษาให้เยอะมาก
บางทีก็ได้ไปอ็อนเซ็นพักโรงแรมไฮโซ มีอาหารชุดแบบญี่ปุ่น
20.
ระบบบัดดี้ : มหาลัยมีจัดหาให้ไหม ความประทับใจ
ภัทรสร : มีติวเตอร์ มหาลัยจัดให้ เราเลือกเองไม่ได้
ชั่วโมงที่ต้องนักเจอกันคือ 20 หรือไม่ก็ 24 ชม.
มีการบ้านก็ให้ช่วยได้ ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง
ภริดา : มีติวเตอร์
เราได้ติวเตอร์ดี เค้าจะคอยมาเจอเราทุกสัปดาห์ ส่วนใหญ่ก็นั่งกินข้าวด้วยกัน คุยนู่นนี่
บางทีก็ให้ช่วยทำการบ้าน แล้วก็ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง
21.
ปริมาณเด็กต่างชาติ ชาติไหนมีเยอะที่สุด
และปริมาณเด็กไทยมากหรือน้อย
ภัทรสร : เยอะ ต่างชาติที่ไม่ใช่ทุนญี่ปุ่นศึกษาก็เยอะ
คนจีนเยอะ กับปีเราคนโปแลนด์ก็เยอะ และเด็กไทยก็เยอะเช่นกันเพราะมีเด็กทุนมงใหญ่มาเรียนภาษาที่นี่ด้วย
แต่ครึ่งปีหลังที่อยู่มีน้อยลงเยอะเลย
ภริดา : ที่เยอะจะมีจีน
กับโปแลนด์ ไทยก็เยอะ555
22.
มีโฮสต์แฟมิลี่ไหม หากมีและได้เข้าร่วมกรุณาอธิบายความประทับใจสั้นๆ
ภัทรสร : มีโครงการโฮสต์ แต่เราไม่ได้ โฮสต์จำนวนน้อยกว่าเด็กอะ
เขาน่าจะให้คนที่ไม่เคยมาหรือมาญี่ปุ่นน้อย ๆ ก่อน
ภริดา : มี
ได้โฮสต์ใจดีมาก เป็นworking womanเคยพาไปเที่ยวโคยะ ซัง จ.วากายามะ เทศกาลเด็กผญก็พาเราเที่ยวบ้าน
ดูตุ๊กตาฮินะและ สอนทำจิราชิซูชิ เมื่อต้นปีนี้เค้าก็มาไทยละมาเจอเราด้วย
23.
สิ่งที่ควรจะนำมาด้วยก่อนมาแลกเปลี่ยน เช่น
บัตรเครดิต หมอน
ภัทรสร : บัตรเครดิตที่เป็นชื่อตัวเอง รูปถ่ายติดบัตร
มาม่า คอมของตัวเอง
ภริดา : บัตรเครดิต
ไว้จ่ายค่ามือถือ พวกเครื่องใช้อื่นๆไม่ต้องกังวลนะหน้าหอมีโฮมโปร5555
24.
ทริคในการใช้ชีวิต เช่นการแยกขยะ วิธีรับมือความเหงา วิธีรับมือความหนาวหรือร้อน
วิธีประหยัดเงิน ฯลฯ
ภัทรสร : ทำกับข้าวกินเองประหยัดตังค์สุด ข้าวคอมบินิบ่อย
ๆ แล้วค่าใช้จ่ายบาน ถ้ามีเพื่อนคนไทยไปด้วย หรือถ้าไม่มีก็หาซะ
แนะนำให้ชวนมาทำกับข้าวกินด้วยกัน ทำกับข้าวคนเดียวกินคนเดียวมันเหงามาก ทำใจปลงกับการหาเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นไว้ด้วยก็ดี
มันยาก
ประตูมหาลัยปิดตอนเที่ยงคืน ถ้าไปเที่ยวแล้วกลับมาหลังจากนั้น
มันมีรั้วที่เป็นเชือกผูกไว้เฉย ๆ ตรงหลังตึกเซอร์เคิล(ไม่รู้ว่าจะยังอยู่มั้ย ลองถามรุ่นพี่ปีใกล้
ๆ ดู) หรือถ้าจะเลยเที่ยงคืนมาไม่นานมาก บางทียามเขาจะรอ ก็โชคดี
ภริดา : โอซาก้าแยกขยะง่ายมากมีแค่เผาได้กับเผาไม่ได้
สำหรับrooming houseมันเป็นห้องเดี่ยวต่างคนต่างอยู่ และต้องดูแลชีวิตตัวเองอ่ะ
คือค่าน้ำค่าไฟแก๊สจ่ายเอง ถ้ามีอะไรพังก็บอกเจ้าของหอ ละต้องอยู่เฝ้าช่างซ่อมเอง
ซึ่งถ้าไม่มายเรื่องการอยู่คนเดียวก็โอเคแหละ
วิธีประหยัดไฟ คือไอ้ห้องเราหน้าต่างใหญ่โตและผนังบางทำให้หน้าหนาวหนาวสุดๆ จะเปิดดันโบก็เปลืองไฟ
เลยต้องหาแผ่นเก็บความร้อนมาแปะทั่วกระจกเลย(สั่งได้จากอเมซอนหรือซื้อโฮมโปร)จะมีทั้งแบบกระดาษและแบบปุจิปุจิ(ไอ้พลาสติกกันกระแทกที่บีบได้อ่ะ5555) ละก็ซื้อฮีตเตอร์ตัวเล็กมา คำนวนแล้วว่าประหยัดกว่าเปิดดันโบ
มีผ้าห่มไฟฟ้าที่พี่ทิ้งไว้ให้ด้วย
25.
การทำงานพิเศษ และเงื่อนไข (เช่น ทำกี่วันต่อสัปดาห์
เวลา)
ภัทรสร : ทุนมงเขาไม่ให้ทำงานพิเศษ
แบบทำร้านอาหารงี้ แต่สามารถรับงานเป็นจ็อบ ๆ ส่วนตัวแบบสอนภาษาไทย ล่าม งานพิเศษไทยเฟซงี้ทำได้
ภริดา : จริงๆทำไม่ได้นะแต่เรารับงานแปลมาทำเงียบๆที่ห้องได้
ทำเดือนละประมาณ1-2งาน
26.
อยากบอกอะไรน้องๆ ถ้าจะเลือกม.ของเรา
ภัทรสร : เราเลือกที่นี่แล้วเราไม่เสียใจเลย เรามีความสุขดีมาก
เรียนก็แฮปปี้ แต่ข้อเสียคือไม่ค่อยเจอคนญี่ปุ่น ถ้าเราไม่แสวงหาออกไปข้างนอก แต่ได้พูดญี่ปุ่นนะ
กับเพื่อนต่างชาติ 555
ตอนนี้แคมปัสยังไกลเมืองไปหน่อย แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น
หอก็อยู่ในแคมปัสเลยแทบไม่เสียเวลาเดินทาง แค่ไปชดเชยเอาเวลาอยากไปเที่ยวในเมืองเท่านั้นเอง
แต่ก็อยู่ในทำเลที่อยากไปเมืองโอซาก้าก็ได้ ไปเกียวโตก็ได้ โกเบก็ได้ ได้เที่ยวเยอะเลยแหละ
มหาลัยจัดกิจกรรมให้เยอะมาก แนะนำว่าไปได้ก็ให้ไป
ทุกสิ่งมันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีซึ่งอยู่ที่ไทยไม่มีทางได้เจอ หรือมาเที่ยวเองก็ไม่เจอ
สุดท้ายคืออ.ที่นู่นกับอ.ที่คณะเราดูสนิทกันมาก
ไปแล้วก็เหลวแหลกโดดเรียนอะไรงี้เยอะ เดี๋ยวเรื่องจะมาถึงอ.เราแน่ ๆ 55
ภริดา : ไม่ต้องกลัวว่าคนไทยเยอะแล้วภาษาญี่ปุ่นจะไม่พัฒนา
ถ้าพยายามหาเพื่อนต่างชาติและเข้าชมรม ก็มีเพื่อนคุยภาษาญี่ปุ่นแน่ๆ อ.ใจดีทุกคน
คุยกับอ.ก็ได้5555 คนญี่ปุ่นที่นี่ค่อนข้างชินและเข้าใจคนต่างชาติด้วยนะ
ขอให้สนุกกับท้องทุ่งนาและทานูกิ(ที่ไม่เคยพบตัว) สู้ๆ~
www.osaka-u.ac.jp/ja
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รูปภาพจาก : https://ja.wikipedia.org/wiki/大阪大学
http://www.med.osaka-u.ac.jp/
http://www.osaka-u.ac.jp/en/news/topics/2015/06/20150618_01
https://www.pinterest.com/pin/449515606532249298/
https://www.japanvisitor.com/japan-museums/minpaku
http://goinjapanesque.com/13574/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น